เรอัล มาดริด ทะลุชิงซูเปอร์คัพ สเปน พบ บาร์เซโลน่า หลัง เบลลิงแฮม ซัดประตูชัย
จู๊ด เบลลิงแฮม (Jude Bellingham) ยิงประตูชัยในครึ่งหลัง พา เรอัล มาดริด เอาชนะ มายอร์ก้า ในเมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อเข้าไปพบกับ บาร์เซโลน่า ในรอบชิงชนะเลิศ ศึกซูเปอร์คัพ สเปน วันอาทิตย์นี้ กองกลางทีมชาติอังกฤษ ทำประตูแรกในนาทีที่ 63 จากจังหวะที่ โรดรีโก้ (Rodrygo) โหม่งติดเสา และ คีเลียน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappe) ยิงซ้ำถูกเซฟ ก่อนที่ เบลลิงแฮม (Bellingham) จะวิ่งเข้ามาแปเข้าประตูไป แชมป์เก่าได้ประตูเพิ่มในช่วงทดเจ็บ เมื่อ มาร์ติน วัลเยนต์ (Martin Valjent) ทำเข้าประตูตัวเองจากบอลทะลุของ บราฮิม ดิอาซ (Brahim Diaz) และ โรดรีโก้ (Rodrygo) ซัดระยะเผาขนจากการยิงของ ลูคัส บาสเกซ (Lucas Vazquez) นี่ถือเป็นประตูที่ 7 ของ เบลลิงแฮม (Bellingham) จาก 9 เกมหลังสุด และเป็นประตูที่ 9 ของเขาในฤดูกาลนี้
เกม เอล กลาซิโก้ รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเป็นการเจอกันอีกครั้งหลังจากปีที่แล้วที่
บาร์เซโลน่า ที่เคยถล่ม เรอัล มาดริด 4-0 ในลา ลีกา เมื่อเดือนตุลาคม ผ่านเข้าชิงด้วยการเอาชนะ แอธเลติก คลับ 2-0 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ดานี โอลโม่ (Dani Olmo) พลาดลงเล่นในเกมนั้นเนื่องจาก บาร์เซโลน่า มีปัญหาในการลงทะเบียนปีกรายนี้ แต่เขาอาจได้ลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศหลังจากได้รับการอนุญาตชั่วคราวจากสภากีฬาแห่งชาติสเปน บาร์เซโลน่า ครองสถิติแชมป์ซูเปอร์คัพ สเปน มากที่สุด 14 สมัย โดยมี เรอัล มาดริด ตามหลังเพียงแค่หนึ่งแชมป์เท่านั้น การแข่งขันฟุตบอล ซูเปอร์คัพ สเปน รอบรองชนะเลิศ ที่เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ระหว่าง เรอัล มาดริด พบกับ มายอร์ก้า จบลงด้วยชัยชนะของ ราชันชุดขาว ด้วยสกอร์ 3-0 โดยได้ประตูชัยจาก hujanlapan จู๊ด เบลลิงแฮม (Jude Bellingham) มิดฟิลด์ดาวรุ่งชาวอังกฤษ เกมนี้ทั้งสองทีมสู้กันอย่างสูสีในครึ่งแรก แต่ไม่มีประตูเกิดขึ้น จนกระทั่งนาทีที่ 63 ของการแข่งขัน hujanlapan จากจังหวะที่ โรดรีโก้ (Rodrygo) โหม่งบอลไปชนเสา และ คีเลียน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappe) ได้ยิงซ้ำแต่ผู้รักษาประตูเซฟไว้ได้ บอลกระดอนมาเข้าทาง เบลลิงแฮม (Bellingham) ที่วิ่งตามมาแปบอลเข้าประตูไป ทำให้ เรอัล มาดริด ขึ้นนำ 1-0
ช่วงท้ายเกมในนาทีทดเจ็บ เรอัล มาดริด ได้ประตูที่สองจากความผิดพลาดของ มาร์ติน วัลเยนต์ (Martin Valjent) กองหลัง มายอร์ก้า ที่สกัดบอลทะลุของ บราฮิม ดิอาซ (Brahim Diaz) เข้าประตูตัวเอง และตามด้วยประตูที่สามจาก โรดรีโก้ (Rodrygo) ที่ซ้ำลูกยิงของ ลูคัส บาสเกซ (Lucas Vazquez) เข้าไป จบเกมด้วยชัยชนะของ เรอัล มาดริด 3-0
ชัยชนะในครั้งนี้ทำให้ เรอัล มาดริด ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ไปพบกับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง บาร์เซโลน่า ที่เอาชนะ แอธเลติก คลับ มาได้ 2-0 ในรอบรองชนะเลิศอีกคู่หนึ่ง
การพบกันของทั้งสองทีมในรอบชิงชนะเลิศครั้งนี้ถือเป็นการรีแมตช์ของปีที่แล้ว ที่ เรอัล มาดริด เอาชนะไปได้ 4-1 สำหรับ จู๊ด เบลลิงแฮม (Jude Bellingham) ประตูในเกมนี้ถือเป็นประตูที่ 7 จาก 9 เกมหลังสุด และเป็นประตูที่ 9 ของเขาในฤดูกาลนี้ แสดงให้เห็นถึงฟอร์มอันยอดเยี่ยมของมิดฟิลด์วัย 20 ปีรายนี้ด้าน บาร์เซโลน่า ที่เคยถล่ม เรอัล มาดริด มา 4-0 ในศึก ลา ลีกา เมื่อเดือนตุลาคม จะได้กลับมาเจอกับคู่ปรับอีกครั้งในรอบชิงชนะเลิศ โดยอาจได้ ดานี โอลโม่ (Dani Olmo) กลับมาช่วยทีม หลังจากที่เขาพลาดลงเล่นในรอบรองชนะเลิศเนื่องจากปัญหาการลงทะเบียน แต่ล่าสุดได้รับการอนุญาตชั่วคราวจากสภากีฬาแห่งชาติสเปนให้ลงเล่นได้แล้ว การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ เวลา 19:00 น. ตามเวลาอังกฤษ ที่เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดย บาร์เซโลน่า มีโอกาสที่จะคว้าแชมป์ซูเปอร์คัพ สเปน สมัยที่ 15 ขณะที่ เรอัล มาดริด หวังที่จะคว้าแชมป์สมัยที่ 14 เพื่อตามเทียบสถิติของคู่ปรับตลอดกาล